Live Chat Mail Callback Request

ด้วยหลายตัวเลือกสำหรับนักลงทุนที่จะช่วยหาวิธีการติดตามแนวโน้มคู่อัตราแลกเปลี่ยนรวมถึงความผันผวนและเครื่องมืออื่นๆ รูปแบบที่ได้รับการเชื่อถือมากที่สุดคือ การติดตามจากแผนภูมิ นักลงทุนที่ใช้แผนภูมิในการวิเคราะห์จะจัดอยู่ในกลุ่มนักลงทุนผู้มีความชำนาญ ผู้ซึ่งจะติดตามความแม่นยำของเครื่องมือการสร้างแผนภูมิและตัวชี้วัดที่จะระบุแนวโน้มที่สูงที่สุดและจุดราคาทั้งตอนที่เข้าและออกตลาด.

ในขณะเดียวกันนักลงทุนทั่วไปผู้ซึ่งจะติดตามแหล่งข่าวที่เสนอข้อมูล ที่เป็นข้อเท็จจริงบนความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ สภาวะการจ้างงาน ปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง และอัตราดอกเบี้ย.

บูลส์อาย มาร์เก็ตส์ จะนำท่านเข้าสู่แผนภูมิการอ่านราคาและการคาดคะเนกระแสขณะทำการแลกเปลี่ยนฟอเรกซ์และ ซีเอฟดี บนระบบออนไลน์ เพื่อที่จะช่วยให้คุณพัฒนาอาชีพการแลกเปลี่ยนของคุณ เราจะแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยคุณให้เข้าใจและสามารถอ่านแผนภูมิได้.

อันดับแรก ต้องรู้ว่าชาร์จใดมาก่อน ก่อนที่จะจำแนกข้อมูลที่ได้รับมา สรุปคือแผนภูมิคือการบรรยายอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นระหว่างเครื่องมือทางการเงินที่ถูกวางและวาดออกมาเป็นแผนภาพ ความสามารถในการอ่านแผนภูมิเป็นส่วนประกอบของการซื้อขายแลกเปลี่ยนเพราะมันจะทำให้คุณไม่เพียงแต่ติดตามการแลกเปลี่ยนในปัจจุบันของคุณ แต่ยังช่วยให้ตรวจสอบแนวโน้มที่มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อการแลกเปลี่ยนในอนาคต.

ความเข้าใจแนวโน้ม

เมื่อคุณมองมาที่แผนภูมิและพบกลุ่มข้อมูลที่เกิดขึ้นตามทิศทางทั่วไปจะพบว่าทิศทางโดยรวมเป็นกระแสที่กำลังมุ่งตรงไป ทุกแผนภูมิและแผนภาพนั้นมีความแตกต่างกัน แนวโน้มบนแผนภูมิส่วนใหญ่นั้น สามารถพิจารณาได้ง่ายขณะที่แนวโน้มแผนภูมิอื่นมีความซับซ้อนมากกว่าแนวโน้มโดยทั่วไปจะเคลื่อนที่ในรูปแบบขึ้นลง เมื่อคุณมาดูแนวโน้มแบบกระทิงคุณก็กำลังมองไปยังจุดสูงสุดของแผนภูมิและแนวโน้มแบบหมีคือรูปแบบของการลดจากที่สุดลงมาที่ต่ำ.

มีแนวโน้มอีกอย่างที่รู้จักกันในนามข้างทาง แนวโน้มราบหรือแนวนอน แนวโน้มนี้อธิบายถึงเมือมีอำนาจของอุปสงค์และอุปทานเท่ากันจึงปรากฏมาในรูปแบบเส้นตรงมากกว่าที่จะเป็นจุดสูงสุดต่ำสุด.

แนวโน้มไม่เพียงแต่จะถูกจัดประเภทโดยทิศทางของมันแต่ยังถูกจัดโดยระยะเวลาที่แนวโน้มดังกล่าวปรากฏ ได้แก่ ระยะยาว ระยะสั้น และระยะกลาง ซึ่งอาจจะอยู่ด้วยกันหรือมีทิศทางเดียวกันหรืออาจจะมีทิศทางต่างกัน แนวโน้มเหล่านี้อธิบายตัวตนว่ามีพื้นฐานมาจากระยะเวลาและเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่คุณพบบนแผนภูมิเมื่อคุณอ่านแผนภูมิ.

ประเภทของแผนภูมิการซื้อขายแลกเปลี่ยน

ความชัดเจนและความเข้าใจต่อสิ่งที่แสดงถึงสิ่งที่แสดงบนแผนภูมิรวมถึงข้อมูลที่แสดงอยู่ คือความสำคัญหลักที่จะนำไปสู่การซื้อขายแลกเปลี่ยน เมื่อคุณก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจการซื้อขายแลกเปลี่ยนออนไลน์ มีแผนภูมิหลักสามประเภทที่เป็นที่นิยมในวงการซื้อขายแลกเปลี่ยนแต่ละแผนภูมิมีระดับข้อมูลที่เป็นไปตามระดับทักษะของนักลงทุนแต่ละคน:

แผนภูมิแบบเส้น –เป็นแผนภูมิพื้นฐานและเป็นเหมือนก้าวแรกของนักลงทุนหน้าใหม่ แผนภูมินี้แสดงแค่ราคาปิดต่อระยะเวลาราคาปิดบ่อยครั้งจะถูกพิจารณาเหมือนส่วนที่สำคัญที่สุดในการวิเคราะห์ข้อมูล นี่เป็นสิ่งจำเป็น วิธีการสร้างแผนภูมิแบบเส้น : โดยการเชื่อมราคาปิดบนกรอบของเวลาที่ระบุมาไม่มีข้อมูลที่สามารถนำมาทำเป็นรูปภาพได้หรือระยะการซื้อขายแลกเปลี่ยน กล่าวคือไม่มีจุดสูงสุดหรือต่ำสุดใดๆบนราคาเปิด.

Bar Chart – Expanding in more detail on the line chart, the bar chart includes several more key fragments of information that are added to each data point on the graph. Made up of a sequence of vertical lines where each line is a representation of trading information. They do represent the highs and lows of the trading period as well as the opening and closing price. The open and the close price are represented by a horizontal shorter line.

The open price is the ‘dash’ that is located on the left side of the vertical bar and conversely the close price indicated by a similar horizontal line, however, to the right side of the bar. Understanding this chart is simple, if the left dash (which is open price) is lower than the right dash (closing price) then the bar will be shaded in green, black or blue and represents a price increase and the instrument gained in value. The opposite is true and the decreased value of the stock is indicated in red.

แผนภูมิแบบเชิงเทียน – เมื่อคุณมีชำนาญในแผนภูมิแบบเส้นและแบบแท่งแล้ว คุณก็สามารถที่จะเรียนรู้แผนภูมิเชิงเทียนซึ่งจะเข้าใจได้ง่ายกว่าเพราะมันมีลักษณะเหมือนแผนภูมิแบบแท่ง เส้นแนวตั้งของแผนภูมิทั้งสองจะแสดงถึงระยะราคาของช่วงการซื้อขายแลกเปลี่ยน ขณะที่แท่งเทียนจะใช้สีที่ต่างกันเพื่อแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของการตลาดของช่วงเวลานั้นๆ.

รายละเอียดแผนภูมิแบบเชิงเทียน

ย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 17 ชาวญี่ปุ่นได้ริเริ่มใช้การวิเคราะห์เฉพาะทางที่จะซื้อขายแลกเปลี่ยนข้าว ถึงแม้ว่ามันจะต่างกับวิธีที่สหรัฐอเมริกาใช้ ที่คิดค้นขึ้นมาในยุค 1900 หลักการนั้นเหมือนกัน.

เพื่อที่จะเริ่มและอ่านแผนภูมิเชิงเทีย ควรรู้ว่า ข้อมูลมีจุดสูงและต่ำ และมีราคาเปิดละปิด.

ส่วนที่ว่างเปล่าและส่วนที่มีการลงสีเรียกว่าแท่งเทียน เส้นยาวและบางที่อยู่เหนือและอยู่ล่างแท่งเทียน แสดงถึงระยะสูงหรือต่ำและถูกเรียกได้ทั้งเป็นเงาเป็นไส้เทียนหรือเป็นหางเทียน เส้นนี้ถ้าอยู่บนจุดสูงสุดของเชิงเทียนจะบอกถึงราคาปิดที่สูงขณะที่ถ้าอยู่ด้านล่างจะหมายถึงราคาปิดที่ต่ำ.

สีของเชิงเทียน ตัวแทนแต่ละคนจะใช้ต่างกันซึ่งบางคนจะใช้เป็นสีเขียวหรือสีฟ้า เพื่อแสดงถึงราคาที่เพิ่มขึ้น หรือสีแดงแสดงถึงราคาที่ลดลง หรือเชิงเทียนที่ว่างเปล่าแสดงถึงเมื่อราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดที่จะเป็นการบ่งบอกให้นักลงทุนเตรียมซื้อ เชิงเทียนที่ไม่ว่างเปล่าหรือมีสีแสดงถึงราคาปิดที่น้อยกว่าราคาเปิดที่จะชี้ถึงตำแหน่งที่จะขาย.

ตัวเชิงเทียน ที่มีขนาดสั้นหรือยาวจะแสดงถึงแรงกดดันให้นักลงทุนซื้อหรือขาย ตัวเชิงเทียนที่สั้นจะแสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยและจะถูกคิดเป็นรูปแบบรวมหรือเรียกว่าโดจิ.

โดจิคือด้านสำคัญของแผนภูมิเชิงเทียนที่นำเสนอข้อมูลในรูปแบบต่างๆ รูปแบบเหล่านี้แสดงราคาเปิดและปิดที่เท่ากันและมีมูลค่าราคาไม่ต่างกัน ความสัมพันธ์ของเทียนโดจิคือการแสดงให้นักลงทุนทราบถึง : หลังจากแท่งเทียนสีขาวและยาว หรือสีเขียว มีแรงผลักดันให้ซื้อที่กำลังจะอ่อนลงหรือหลังจากแท่งเทียนหนา (สีน้ำเงินหรือสีดำ) แสดงถึงแรงผลักดันให้ขายเริ่มที่จะลดลงและอุปสงค์และอุปทานเริ่มที่จะเท่ากัน.

การวิเคราะห์เชิงภาพ

รูปแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมและเชื่อถือได้ที่สุดของการวิเคราะห์เชิงภาพ คือรูปแบบหัวและไหล่.

รุปแบบนี้ไปรูปแบบพลิกผัน เมื่อเริ่มสร้างจะเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มปัจจุบันจะมีการพลิกผันในไม่ช้า รูปแบบหัวและไหล่มี 2 แบบ:

1.            หัวและไหล่ด้านบน: โดยทั่วไปจะก่อตัวที่จุดสูงสุดบนแนวโน้มที่กำลังขึ้น และบ่งชี้ว่าราคาทรัพย์สินจะเริ่มลดลง เมื่อรูปแบบสมบูรณ์.

2.            หัวและไหล่ด้านล่าง(หัวและไหล่กลับด้าน) โดยทั่วไปจะก่อตัวระหว่งาที่แนวโน้มลดลง รูปแบบหัวและไหล่ด้านล่างแสดงถึงราคาทรัพย์มีการคาดการณ์ว่าจะสูงขึ้น.

ทั้งสองแบบมีโครงสร้างที่เห็นได้เหมือนกัน แต่ละแบบประกอบด้วยส่วนประกอบสี่ส่วน : ไหล่สองข้าง หัว และ คอ รูปแบบโครงจะก่อตัวเมื่อคอ (ความสนับสนุนและความช่วยเหลือ) พงลงและไหล่ที่สองก่อตัวขึ้น หัวและไหล่จะก่อตัวที่จุดสูงสุดและต่ำสุดของแผนภูมิ ยังมีรูปแบบอื่นอีกที่นักลงทุนสนใจที่จะวิเคราะห์เพื่อเริ่มทำการซื้อขายแลกเปลี่ยน เช่น: บนและล่างสองชั้น บน/ล่างสามชั้น พิน็อคคิโอ การครอบคลุมแบบกระทิง/หมี เป็นต้น.

การรวบรวมเครื่องวิเคราะห์เฉพาะทางมาใช้ในแผนภูมิของคุณ

ในสาระสำคัญ ตัวชี้วัดเฉพาะทางจะถูกรวมเข้ากับแผนภูมิที่ปรากฏบนหน้าจอของคุณเช่น ตัวชี้วัดด้านปริมาณ ค่าเฉลี่ยที่มีการเคลื่อนที่ MACD แนวโน้ม ระดับฟิบอนาซซี่ การเก็งกำไรระยะสั้น และอื่นๆ ที่สามารถกำจัดความผันผวนของการตลาด เพื่อสร้างภาพของตลาดและแนวโน้มที่ดีกว่า.

บูลส์อาย มาร์เก็ตส์ ได้เขียนคำแนะนำเชิงลึกนี้เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีการที่เครื่องมือการวิเคราะห์เชิงเทคนิคหลักถูกใช้โดยนักลงทุนมืออาชีพ เรียนรู้วิธีที่จะจัดการสิ่งที่คุณได้เรียนผ่านบัญชีสาธิต ทดสอบเครื่องและแผนภูมิที่ระบบอันล้ำหน้าของเราได้นำมาแสดงไว้ให้คุณ.